[เนื้อหา/ความเห็น] Sakura, Moyu. -As the Night’s, Reincarnation- - PROLOGUE (เกมจริง)
คำเตือน
มีสปอย
อาจต้องเล่ากันใหม่อีกรอบ แต่ควรรู้ไว้ก่อน... ว่ามีบางส่วนที่ยกมาจากฉบับเก่า เพราะตรงนั้นผมน่าจะเขียนจนไม่น่าจะมีอะไรที่แก้ไขอะไรเพิ่ม
ข่าวลือในเมืองซังเซน
ในเมืองซังเซนมีข่าวลืออยู่หลายอย่าง
- แมวพูดภาษามนุษย์ได้
- แมวตัวนั้นใช้เวทมนตร์แปลกๆ ยามค่ำคืน
- เคยมีการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่ฆ่าเท่าไหร่ก็ไม่ตาย
- มีรถจักรไอน้ำที่เชื่อมระหว่างอดีตและอนาคตหลับไหลอยู่ในที่ทางรถไฟรกร้างซักที่
- มีดินแดนที่มีเฉพาะแมวในยามค่ำคืน
- หากเขียนคำขอลงกระดาษ ซุกลงใต้หมอนก่อนนอนและเห็นฝัน คำขอนั้นจะเป็นจริง
ที่นั้นคือแดนรัตติกาล อีกหน้าฉากนึงของเมืองซังเซนที่ปรากฏขึ้นเฉพาะตอนกลางคืน ที่เกิดขึ้นให้ผู้คนในเมืองซังเซนมองเห็นฝัน มีผู้อาศัยเป็นแมวพิเศษที่พูดภาษาคนได้ มีห้างร้านขายของ หรือกระทั่งเหล่าคนตายที่แวะเวียนมาเยือน
ที่ซึ่งทุกคำขอกลายเป็นรูปลักษณ์
เหล่าอดีตสาวน้อยเวทมนตร์ (เพื่อนสมัยเด็ก) จากตอนนั้นถึงตอนนี้
10 ปีก่อน มีคำพยากรณ์ว่าอนาคตของมวลมนุษยชาติจะสูญสิ้นโดยราชาแห่งรัตติกาล เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นพวกเธอจึงจับมือกันสู้ โดยไม่มีใครเลยที่จะล่วงรู้ ยินดี หรือจะตบรางวัลให้
เรียงนามผู้ที่เข้าร่วมในตอนนั้น อาจจะเยอะกว่านี้แต่ก็ระบุตัวได้แค่นี้
- ฮิอิรางิ ฮารุ
- อันโด จิวะ
- โยรุสึกิ ฮิโอริ
- โทอา โทโมฮิโตะ
- โทอา อาสึสะ
- คานาเดะ ไทกะ
- คุโระ (แมว)
โดยมีฮิมุไค อาซาฮิ ผู้ใช้เวทมนตร์แห่งรัตติกาลคอยดูแลเด็กๆ จนเสร็จงานก็จะให้ใช้เวทมตร์สุดท้ายเพื่อทำให้ความฝันของตัวเองเป็นจริง แต่ก็ต้องอยู่ในดุลพินิจของอาซาฮิ
คานาเดะ ไทกะเองก็ไม่มียกเว้น คำขอของเขาคือขอให้ตัวเองตายแบบทันที ถ้าเป็นไปได้ขอให้ตายแบบที่ทรมานที่สุด แต่อาซาฮิเลือกที่จะปรับทัศนคติเพื่อให้เขาได้มีชีวิตอยู่ตามที่ตัวเองประสงค์และแก่ตาย
แม้มหากาพย์สาวน้อยเวทมนตร์กู้โลกมันจบแบบสวยๆ ไปแล้ว เรื่องราวเล็กๆ อย่างชีวิตของเด็กๆ ที่เคยพิเศษเหล่านี้ก็ยังดำเนินต่อไป และต่อสู้กับความลำบากในโลกนี้
- ฮารุ ย้ายไปอยู่เมืองอื่นซักพักใหญ่และกลับมาที่ซังเซน เพื่อมาขอให้อาซาฮิทำให้ตัวเองกลับไปเป็นสาวน้อยเวทมนตร์อีกครั้ง
- จิวะ อยู่บ้านที่เปิดเป็นร้านกาแฟกับพ่อ
- ฮิโอริ อยู่ที่ศาลเจ้าโยรุสึกิ
- อาสึสะ ตอนนี้อยู่โรงเรียนในเมืองอื่น
ผู้ใช้เวทมนตร์แห่งรัตติกาล (ผู้ใช้สาวน้อยเวทมนตร์) คนใหม่
ในวันเกิดของไทกะ ตอนที่เขาออกจากบ้านเด็กกำพร้า และไปอยู่กับอาซาฮิที่เตียงแห่งฝัน เพื่อที่จะขอให้ทำตามที่ตัวเองสัญญากันเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว นั่นคือการสืบทอดงานผู้ใช้สาวน้อยเวทมนตร์
หน้าที่หนึ่งของพวกเขา
- ตรวจตราเมือง
- ปัดเป่าฝันร้าย
- หาตัวเด็กหลงทาง
ในงานแรก ไทกะออกไปทำงานกับโทยะสองคน ไปเจอกับเด็กหลงทางที่มีข่าวว่าถูกพ่อแม่ทิ้งจนเอาตัวเองไปให้รถเมล์ชนตายและกำลังจะเปลี่ยนเป็นฝันร้าย แต่ในทันทีจะช่วยก็หนีไปเสียก่อนจนต้องยกยอดไว้ในโอกาสอื่น และปิดจ๊อบได้ในภายหลังในสภาพปางตาย
จากปากคำของนานะ ตัวตนที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นพระเจ้าแห่งแดนรัตติกาลระบุว่าเด็กคนนี้เป็นเด็กดีมาก ที่เป็นที่รักของใครๆ ไม่ว่าจะทำอะไรกับเด็กคนนี้ก็น่าจะยกโทษให้ ฝั่งพ่อมีคนอื่นแล้วต้องไปอยู่ทางนั้น ซึ่งฝั่งแม่ก็เหมือนกัน สุดท้ายจึงปล่อยให้เธออยู่คนเดียวกลางหน้าหนาว เจ้าตัวบอกว่าเหตุที่ไม่กลับมาอาจเพราะทำตุ๊กตาที่เป็นของขวัญวันเกิดหาย
และอีกเหตุนึงน่าจะเพราะคำสอนของพ่อแม่ที่ ให้ความเจ็บปวดของคนอื่นเป็นเหมือนของตัวเอง ไม่ว่าตัวเองจะเจออะไรมา ยังมีคนอื่นที่เจอมาหนักกว่า และเหตุที่น่าจะทำให้ลงมือคือตอนที่ไปเจอแม่กับครอบครัวใหม่ที่บังเอิญว่าลูกสาวบ้านที่แม่ไปแต่งงานใหม่ ถือตุ๊กตาที่ควรจะเป็นของขวัญวันเกิดของเด็กคนนั้นและทำหายไปแล้ว
ท้ายที่สุดแล้วเธอก็รู้ว่าโดนทิ้ง และความรู้สึกเจ็บปวดเหล่านั้นก็ใหญ่ขึ้นจนเป็นฝันร้าย ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ไทกะเคยเป็น
ในภายหลัง เด็กคนนั้นมีคนรับไปเลี้ยงดูแล้วและไม่น่าจะฆ่าตัวตายอีก แต่ตัวฝันร้ายที่แยกออกมาแล้วตัดสินใจจะจากไปดีๆ แม้นานะจะอยากให้อยู่ต่อ
ทุกสิ่งเป็นจริงได้ ด้วยกระดาษแผ่นเดียว
งานที่สองของไทกะ คือช่วยนานะเก็บคำขอที่ผู้คนส่งมาเพราะนานะอยากไปส่งร่างฝันร้ายของเด็กคนนั้นให้ถึงปลายทางจนมือไม่ว่าง
หลังจากรถไฟออกเดินทาง ตัวรถไฟนี่แหละจะเริ่มหาพิกัดเป้าหมายให้เอง โดยที่คนขับรถไฟอย่างนานะออกมาตั้งวงเล่นไพ่กับพวกไทกะได้จนถึงพิกัดเป้าหมาย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ถึงพิกัดเป้าหมายแล้วก็ต้องไปเอาเอง อย่างครั้งนี้อยู่ก้นทะเลของแดนรัตติกาลก็ต้องลงไปถึงจุดที่จดหมายอยู่ และเป็นประสบการณ์เฉียดตายอีกครั้ง เพราะเกือบโดนฉลามกิน
เนื้อหาในจดหมายความว่า พรุ่งนี้มีงานร้องเพลงขอให้ร้องออกมาดีๆ เพราะซ้อมเท่าไหร่ก็ไม่เวิร์คหนำซ้ำยังโดนเพื่อนหัวเราะใส่อีก ถ้าหนุ่มที่แอบชอบหัวเราะอีกใส่ก็ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ไหน
แต่ไปถึงสถานีปลายทาง นานะดันให้พวกไทกะจัดการกับจดหมายเอาเอง ส่วนตัวเองจะพาเด็กคนนั้นไปซื้อตั๋วแทน ซึ่งเด็กคนนั้นเลือกจุดหมายไว้ที่โกดังวิญญาณ
การแปลงค่าเงินจะใช้ฐานจากความทรงจำ ความทรงจำดีๆ จะเปลี่ยนเป็นทอง ความทรงจำที่ไม่ดีจะเปลี่ยนเป็นเงิน ที่สถานีปลายทางของแดนรัตติกาลมีห้างใหญ่ที่หาซื้อของได้แทบจะทุกอย่าง และผู้คนที่อยู่แถวนี้บางคนกำลังเตรียมไปสู่ภพภูมิถัดไปของตัวเอง
จะสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตก็ไม่มีข้อยกเว้น บ้างก็เลือกไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์ บ้างก็อาจจะไปเป็นดอกไม้ หรือกระทั่งแสงอาทิตย์เพียงชั่วครู่
แต่อย่างไรเสียสุดท้ายก็ต้องมาซื้อตั๋วรถไฟอยู่ดี ซึ่งแค่ตั๋วเฉยๆ ไม่พอ ยังต้องซื้อชิ้นส่วนที่จะเอาไปประกอบเป็นตัวเองในอีกภพภูมินึงไปด้วย และท้ายที่สุดแมวชอบความทรงจำแย่ๆ เลยรับจ่ายเป็นเงิน ส่วนทองที่ได้ก็เอาไปซื้อตั๋วรถไฟ
สุดท้ายแล้ว จดหมายที่เก็บมาได้มีแปดฉบับ ซึ่งทุกฉบับซื้อพรสวรรค์ไปให้ตามที่ประสงค์ หากแต่ฉบับของเด็กคนนั้นกลับซื้อความกล้าให้แทน เนื่องจากผลการระดมสมองจากมิตรสหายถึงความจำเป็นที่ต้องซื้อซึ่งพรสวรรค์
คืนวันนั้น ไทกะเฝ้าฝันถึงวันที่ฮารุย้ายเข้ามาเรียนอย่างเป็นทางการ ซึ่งมันก็เป็นจริงตามนั้นเกือบจะทุกประการ
ในช่วงวันหยุดของพวกเขา ไทกะนัดมิตรสหายเอาไว้และทัวร์รำลึกถึงวันวาน และตกเย็นก็กลับบ้านกับโทยะ
เนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- PROLOGUE: เดโม / เกมจริง (คุณอยู่ตรงนี้)
- โยรุสึกิ ฮิโอริ
- อันโด จิวะ
- ฮิอิรางิ ฮารุ
- คุโระ