[เนื้อหา/ความเห็น] Kara no Shoujo – เนื้อหาหลัก
คำเตือน
มีสปอย
Content Warning
เนื้อหาเกมดังกล่าวประกอบไปด้วย คดีฆาตกรรม มีบรรยายการก่อเหตุ สภาพศพ โปรดใช้วิจารณญาณในการเล่น
เนื้อหาจะอ้างอิงจากเนื้อหาสุดท้ายโดยไม่กล่าวถึง Ending แบบอื่นที่มีนับสิบแบบ.. เดี๋ยวมันจะยาวจนเขียนไม่ไหวเสียก่อน
ในภาคนี้มีเรื่องอยู่ 2-3 อย่าง
- คดีฆาตกรรมไข่แนร์นิส (ネアニスの卵)
- คดีฆาตกรรมผลงานเด็กสาวในเปลือกไข่ (殻ノ少女)
- โรคุชิกิ มาโคโตะ (六識 命)
- คุจิกิ โทโกะ
จุดเริ่มต้นทั้งหมดเริ่มจากการที่คุจิกิ โทโกะแอบสะกดรอยนักสืบเอกชน โทคิซากะ เรย์จิ ตั้งแต่ที่บ้านและขอให้สืบเรื่องของตัวเองให้หน่อย และระหว่างนั้นอุโอสุมิ เคียวโซก็มาขอให้ช่วยสืบคดีฆาตกรรมต่อเนื่องคดีหนึ่ง กับซาเอกิ โทคิโอะมาจ้างให้ช่วยสืบเรื่องนักเรียนที่หายสาบสูญ
คดีฆาตกรรมไข่แนร์นิส
คดีนี้มีคือผลงานของคุซากะ ทัตสึฮิโกะครูประจำชั้นม.สองห้องฟุจิที่พวกยูคาริเรียนอยู่ เพื่อนิชิโซโนะ ยุยผู้เป็นน้องสาว
โดยเริ่มจากการอุ้มฆ่าหั่นศพเด็กสาวอย่างอิมามุระ ฮารุกะ, ทาคิกาวะ ยูมิ, สึกิชิมะ โอริฮิเมะ และสุดท้ายอย่างหญิงท้องแก่อย่างทาคาชิโระ คาสึนะ
สภาพศพที่พบเห็นมีอวัยวะบางส่วนถูกตัดออกไป บ้างก็ตัว บ้างก็แขนขวา แต่จุดร่วมหนึ่งคือศพบางส่วนถูกผ้าคลุมดำคลุมไว้ มดลูกถูกตัดและยัดเปลือกไข่สีดำและมีกระดาษที่มีโคลงกลอน La Divina Commedia ของดันเต้บทหนึ่งที่นิชิโซโนะ ยุยเขียนเอาไว้อยู่ มีร่องรอยในการร่วมเพศและทำแท้ง ซึ่งเลียนแบบจากนิยายไข่แนร์นิสของคัตสึรางิ ชิน ที่ต้นแบบนึงมาจากกลอน La Divina Commedia
ระหว่างนั้นมีข่าวลือเรื่องไข่สีดำที่ว่าถ้าเอาติดตัวไว้ ถ้าไม่แตกคำขอจะเป็นจริง แต่ถ้าแตกจะโดนพระแม่ทมิฬฆ่า
และคดีนี้เรย์จิก็ขอให้ทาคาชิโระ ชูโก นักสืบแห่งอุเอโนะที่รู้จักกันสมัยอยู่กองทัพและลาออกจากงานตำรวจหลังเรย์จิมาช่วย
สุดท้าย คดีนี้ปิดโดยที่จับตัวคุซากะและช่วยชีวิตคาสึนะมาได้อย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน ที่บ้านคุซากะในฮิงาชิฟุชิมิ
คดีฆาตกรรมผลงานเด็กสาวในเปลือกไข่
รูปเด็กสาวในเปลือกไข่ งานระดับมาสเตอร์พีชที่ถูกวาดโดยมามิยะ ชินโซ จิตรกรชื่อดัง เพื่อนเก่าของคุจิกิ ยาสุทาดะ และคนรู้จักของซาเอกิ
...แต่จริงๆ นั่นเป็นรูปที่วาดโดยมีต้นแบบมาจากผลงานจริง
ใช่ เขาฆ่าหญิงสาวคนนึงเพื่อสร้างผลงานศิลปะ คนๆ นั้นคือโรคุชิกิ มิสะที่ในตอนนั้นใช้นามสกุลนาคาฮาระ
และก่อนหน้านั้น ชินจิผู้เป็นลูกชายดันไปฆ่ามิยูกิผู้เป็นแม่เข้าจนเห็นภาพหลอน และหลังจากนั้นมิสะก็เข้าบ้านมามิยะ ซึ่งชินจิมองว่าดูเป็นแม่มากกว่ามิยูกิเสียอีก
จนไปเห็นผลงานเด็กสาวในเปลือกไข่เข้า แล้วหนีมาที่โบสถ์แห่งหนึ่งที่กุนมะในช่วงสงครามและไปเจอโทโกะที่หน้าตาเหมือนมิสะเป๊ะ
ซักพักใหญ่ๆ ชินจิก็ออกจากโบสถ์และเป็นนักเขียนนามปากกาคัตสึรางิ ชิน
ลงมือก่อเหตุในช่วงหลังคดีไข่แนร์นิส โดยเปิดฉากจากการใส่ชิ้นส่วนเนื้อมนุษย์ลงไปในไข่ไก่ที่จะใช้ในงานโรงเรียนโอบะ และเริ่มลักพาตัวนักเรียนหญิงไปฆ่าเพื่อสร้างงานเด็กสาวในเปลือกไข่เพื่อหาตัวแม่ เหยื่อคือคาโน โทโมโกะ, โคบายาชิ ยูโกะ, โยโซมิยะ สึซึริโกะและ มิสุฮาระ โทโกะ
จนมาเจอกับโทโกะอีกครั้งในที่ไหนซักที่ และชิงตัวจากมุราเสะ นาโอกิและฆ่าผู้สมคบคิดอย่างอาคาซากิ เนเนะในระหว่างที่พาตัวออกไป
แต่ในคดีนั้นปริศนาการสร้างรูปของชินโซก็กระจ่าง จนถูกจับกุมไปพร้อมกับมิโอะที่มีส่วนร่วมในการสร้างเปลือกไข่
ส่วนชินจิก็หนีไปพร้อมกับร่างของโทโกะ
เรื่องราวในชีวิตของเขาได้อยู่ในรูปลักษณ์ของนิยายชื่อ_เปลือกเชออล_ที่กำลังตีพิมพ์อยู่
แต่ชินจิไม่รู้เลยว่ามิสุฮาระ โทโกะที่ฆ่าไปคือคนที่ควรจะเป็นน้องสาว เพราะมิสุฮาระ มิโอะนั่นแหละที่เป็นแม่แท้ๆ ของเขา ซึ่งทั้งหมดนี่เป็นการทดลองอุ้มบุญของยาสุทาดะเพราะมิยูกิคลอดลูกยาก แต่ถูกระบุในข้อมูลทะเบียนราษฏรว่าแม่คือมิยูกิ
ในคดีนี้และจากนี้ไป มียางินุมะ เรียวอิจิ นายตำรวจอีกคนนึงจะเข้ามาร่วมสืบสวนด้วย... ยกเว้นคดีโรคุชิกิ
โรคุชิกิ มาโคโตะ
หมอเถื่อนผู้ก่อคดีฆาตกรรมหญิงท้องแก่ต่อเนื่องเมื่อ 6 ปีก่อน เหยื่อในนั้นคือมิยามะ ยูคิโกะ คู่หมั้นของเรย์จิ กับมิอุลูกสาวของซาเอกิ
แต่หลังจากนั้นก็หายตัวไปโดยไม่มีใครรู้เลยว่าไปไหน และแม้ออกประกาศจับแล้วก็ยังหาตัวไม่ได้
เคยมีแฟนชื่อเซเลสเทียล สเตลล่าที่เป็นพี่สาวของมาลิสที่ตายระหว่างการรักษาของมาโคโตะ
จริงๆ แล้วโรคุชิกิย้ายมาทำงานในแผนกจิตเวชในสถาบันวิจัยโรคคุจิกิ และเปลี่ยนชื่อเป็นไซโต้ ทามากิ และคนไข้ในการดูแลคนนึงคือคุซากะ และมามิยะ ชินจิคนร้ายของคดีในภาคนี้ แต่สุดท้ายก็ถูกเรย์จิจับได้ แม้เขาเกือบจะฆ่ามาโคโตะคาโรงพยาบาล
ถึงเห็นแบบนี้แต่ก็ยังมีจุดที่ยังดีอยู่บ้างอย่างการรักษาอาการป่วยของมาลิสจนหาย แต่ก็เอามาหักล้างความผิดที่ฆ่าหญิงท้องแก่ไม่ได้
คุจิกิ โทโกะ
ลูกบุญธรรมของคุจิกิ จิซึรุ และหลานสาวของนาคาฮาระ ชินจิโร่เจ้าของกลุ่มธุรกิจใหญ่แห่งโอคายามะ และหอศิลป์นาคาฮาระที่คุราชิกิ ลูกสาวของโรคุชิกิ มาโคโตะ และมิสะที่เป็นพี่น้องกัน
แต่ด้วย ณ เหตุหนึ่งมิสะแยกตัวออกมาจากมาโคโตะ และไปทำงานในหอศิลป์นาคาฮาระและได้เจอกับยูกิฮิโตะลูกชายของชินจิโร่ที่ตอนนั้นทำงานเป็นนักประเมิน จากนั้นก็ตกหลุมรักจนคิดถึงเรื่องแต่งงานแต่ชินจิโร่ไม่ยอมรับ แต่สุดท้ายก็ยอมให้เข้าบ้านนาคาฮาระเพราะยูกิฮิโตะขอไว้ก่อนออกไปรบ และในระหว่างสงครามก็ออกจากคุราชิกิและพาโทโกะไปอยู่ที่โบสถ์ในกุนมะและแวะมาเยี่ยมอาทิตย์ละครั้ง
ในระหว่างที่ยังมีชีวิต มิสะทำงานอยู่หอศิลป์โตเกียวที่อุเอโนะจนกระทั่งไปเป็นผู้ช่วยให้ชินโซจนถึงวาระสุดท้าย
หลังสงครามโลกจบลงจิซึรุก็รับโทโกะเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม ซึ่งจิซึรุไม่รู้เลยว่าโทโกะเป็นโรคโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อ และดันมีหมู่เลือดหายากอย่างโอบอมเบย์เสียอีก
ซึ่งจะว่าไป ชูโกเองก็รับงานจากบ้านนาคาฮาระให้หาตัวโทโกะอยู่เหมือนกัน
ระหว่างที่เรย์จิสืบเรื่องนี้อยู่ โทโกะก็ถูกรถชนไม่ได้สติและถูกพวกเนเนะลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่ แต่ก่อนที่จะทำสำเร็จ ชินจิก็มาชิงตัวไปก่อน
แต่เรื่องดีๆ มันก็ยังพอมีอยู่อย่างที่คาสึนะคลอดลูกสาวได้อย่างปลอดภัย
เนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
Kara no Shoujo (殻ノ少女)
- เดโม
- เกมหลัก (คุณอยู่ตรงนี้)
Kara no Shoujo - The Second Episode (虚ノ少女)